‘สงครามการค้า’ รอบใหม่ กับความหวัง 'ทีมไทยแลนด์' เจรจาการค้า
เกษตรกรและธุรกิจอเมริกัน ต่างเติบโตต่อเนื่อง
หากพิจารณาถึงสถานการณ์โลกปัจจุบัน นานาประเทศเห็นว่านโยบายการค้าเป็นกลไกหนึ่งสำหรับการต่อรองเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองด้วย
สำรวจแนวทางสหรัฐฯ ยุคทรัมป์ กับความพยายามเจาะสัมพันธ์จีน-รัสเซีย
ส่วนในเรื่องข้อมูลนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องอ่านให้ขาดว่าในการเจรจากับสหรัฐฯนั้นเราจะเอาอะไรไปวางบนโต๊ะเจรจา ที่จะสามารถยื่นหมู ยื่นแมวได้ โดยที่ทั้งสองประเทศได้ประโยชน์ร่วมกัน
สุดท้ายก็ทำให้สหรัฐฯ เริ่มส่งออกสินค้าไปยุโรปได้
เครดิตภาพ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นว่าสหรัฐฯ ประสบปัญหาดุลการค้าที่เสียเปรียบกับหลายประเทศ เช่น จีน เม็กซิโก และแคนาดา โดยมีความเชื่อว่าการนำเข้าสินค้าราคาถูกจากประเทศเหล่านี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและการจ้างงานภายในประเทศ
สงครามการค้าเกิดขึ้นเมื่อประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการกีดกันทางการค้า เช่น การขึ้นภาษีนำเข้า หรือการจำกัดการนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้า เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกของเรา
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอคอนเทนต์และโฆษณาที่ท่านอาจสนใจเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์ของเราต่อไปโดยไม่ได้ปรับการตั้งค่าใดๆ เราเข้าใจว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์ของเรายอมรับเรียนรู้เพิ่มเติม
หัวหน้าทิพย์ ออฟฟิศทิพย์ แต่จ่ายเงินจริง เทรนด์ใหม่หนุ่มสาวจีนแสร้งทำงานเพื่อลดแรงกดดันจากสังคม
การทอดทิ้งข้อตกลงการค้าของเราทั้งหมดแปลว่า ทรัมป์ได้ทำให้ความโง่งม – สงครามการค้า ของตัวเขาเองและสุดท้ายก็ของคนอื่นด้วย – กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เขากระชากเรากลับสู่โลกที่ลัทธิพาณิชย์นิยมแบบกระด้างและทำลายล้างจะเฟื่องฟู
ระบบนี้ตั้งอยู่บนการต่างตอบแทน – แต่ละประเทศกดภาษีศุลกากรให้อยู่ในอัตราต่ำ แลกกับคำมั่นสัญญาของประเทศคู่ค้าว่าจะกดภาษีศุลกากร ของตัวเอง ให้ต่ำตามไปด้วย ข้อตกลงนี้ได้ผลทางการเมือง เพราะใช้กลุ่มผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมส่งออกในประเทศ ซึ่งอยากได้ภาษีศุลกากรต่ำ มาคัดง้างกับกลุ่มผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมที่อยากได้ภาษีสูง
แต่ช่วงเวลาที่ดีต่อเนื่อง ไม่เคยเกิดขึ้นจริง..
สงครามการค้าคือ การที่ประเทศหนึ่งเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นหรือกำหนดโควต้าการนำเข้าของสินค้าแต่ละประเทศ โดยทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจและต่างตอบโต้กันด้วยรูปแบบที่คล้ายคลึงกับการปกป้องการค้า และเมื่อความรุนแรงที่ปะทะกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ความบาดหมางก็จะแปรเปลี่ยนเป็นสงครามการลดการค้าระหว่างประเทศ